วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

จำลองลายนิ้วมือ “ดาวินชี” ถอดรหัสชีวิตศิลปินเอก

ลายนิ้วมือนิ้วชี้ดาน ซ้ายของดาววินชี ที่นักมานุษยวิทยาอิตาลีระบุว่า ลักษณะลายนิ้วมือเช่นนี้เหมือนกับประชากร 60% ของตะวันออกกลาง ทำให้เชื่อว่าดาวินชีมีเชื้อสายอาหรับ

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
ลายนิ้วมือบางชิ้นก็มีร่องรอยของอาหาร น้ำลาย และเหงื่อ ทำให้สามารถศึกษาพฤติกรรมระหว่างทำงานของศิลปินเอกของโลกผู้นี้ได้

ภาพเหมือนลีโอนาร์โด ดาวินชี

เอเจนซี/เอพี – นักมานุษยวิทยาอิตาลีแกะรอยลาย นิ้วมือตามผลงานต่างๆ ลีโอนาร์โด ดาวินชี ปะติดปะต่อจนสามารถสร้างลายนิ้วมือชี้ด้านซ้ายขึ้นมา โดยหวังว่าลายนิ้วมือดังกล่าวจะช่วยให้ได้ข้อมูลด้านต่างๆ ของอัจฉริยะแห่งยุคเรอเนซองส์เพิ่มเติมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมระหว่างทำงานที่ชอบทำไปกินไป รวมถึงภูมิหลังของมารดาที่มาจากตะวันออกกลาง

ลุยอิจิ คาพาสโซ (Luigi Capasso) นักมานุษยวิทยาและผู้อำนวยการสถาบันวิจัยมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยชิเอตี (Anthropology Research Institute at Chieti University) ในอิตาลี เผยผลงานการจำลองลายนิ้วมือของลีโอนาร์โด ดาวินชี (Leonardo da Vinci) ที่ศึกษาวิจัยมานาน 3 ปี ทำให้สามารถระบุได้ชัดเจนว่าผลงานชิ้นไหนเป็นของดาวินชีอย่างแท้จริง รวมถึงผลงานบางชิ้นที่ยังมีการถกเถียงกันอยู่ เพียงแค่นำมาเทียบลายนิ้วมือที่จำลองขึ้น

กระบวนการสร้างลายนิ้วมือจำลองขึ้นมานี้ ทีมงานของคาพาสโซต้องศึกษาภาพถ่ายส่วนต่างๆ ของลายนิ้วมือถึง 200 ชิ้น จากกระดาษที่ดาวินชีเคยถือ 52 แผ่น หลังจากสร้างลายนิ้วมือจำลองขึ้นมาได้ ทำให้รู้จักโลกของดาวินชี และมองเห็นไปถึงอนาคต โดยสามารถเข้าใจว่าศิลปินผู้โด่งดังมีลักษณะอย่างไร ด้วยข้อมูลทางชีววิทยา

ทีมวิจัยระบุว่า ดาวินชีมักจะกินไปทำงานไป เพราะร่องรอยลายนิ้วมือที่ทิ้งไว้ตามกระดาษต่างๆ มีทั้งน้ำลาย เลือด และอาหารปะปนอยู่ด้วย

ที่น่าสนใจคือ แค่เพียงลายนิ้วมือก็ทำให้ล่วงรู้ได้ว่าเขามีเชื้อสายอาหรับผสมอยู่ โดยคาพาสโซอธิบายว่า ลักษณะปลายนิ้วของดาวินชีที่ปรากฏนั้น พบในชาวอาหรับ 60% จึงสันนิษฐานได้ว่ามารดาของดาวินชีน่าจะมีต้นกำเนิดอยู่แถวๆ ตะวันออกกลาง อย่างไรก็ดีการระบุชาติพันธุ์ด้วยการพิสูจน์ลายนิ้วมือนั้น ยังไม่เป็นที่ยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญเท่าใดนัก

ไซมอน โคล (Simon Cole) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านอาชญวิทยา มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในเออร์วีน (University of California at Irvine) อธิบายว่า ในทางวิทยาศาสตร์ได้เก็บสถิติลักษณะทางเชื้อชาติเพื่อบ่งชี้ที่มาของแต่ละ บุคคล แต่การระบุว่าใครคนหนึ่งมีเชื้อสายอะไรบ้าง ไม่สามารถใช้ลายนิ้วมือจากนิ้วเดียวอธิบายได้

ทั้งนี้ แนวคิดเรื่องมารดาของดาวินชีที่ว่ามาจากตะวันออกกลางนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ระบุว่า เธอมาจากทัสคานีและถูกขายเป็นทาสที่คอนสแตนติโนเปิล (ปัจจุบันคือกรุงอิสตันบูล ตุรกี) ซึ่งอเลสซานโดร เวซซอซี (Alessandro Vezzosi) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องของดาวินชี ระบุว่า สิ่งที่บอกออกมาจากลายนิ้วนือนั้นสอดคล้องกับผลงานวิจัยอื่นๆ ที่ชี้ว่ามารดาของดาวินชีไม่ใช่ชาวชนบทในเมืองวินชี อิตาลี

ทว่าเวซซอซีก็ยังไม่อยากให้คาพาสโซฟันธงไปว่ามารดาของดาวินชีเป็นทาส ที่ถูกขายมาจากตะวันออกกลาง จนกว่าจะพบหลักฐานการซื้อขาย พร้อมกับให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “คาเทอรินา” (Caterina) อันเป็นชื่อของเธอนั้น เป็นชื่อที่ใช้ทั่วไปในหมู่ทาสที่ทัสคานี แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับเธอที่ชัดเจน

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญอีกหลายรายระบุว่า ลายนิ้วมือที่หลงเหลืออยู่บนกระดาษผลงาน อาจจะเป็นของใครต่อใครอีกหลายคนที่ได้จับต่อๆ กันมา แต่ที่คาพาสโซมั่นใจว่า เป็นของดาวินชีนั้น ก็เพราะร่องรอยการลบหมึกในบางช่วงที่เชื่อว่าเพราะดาวินชีเขียนผิดและต้อง การแก้ไข

ข้อมูลทางชีวภาพของดาวินชีส่วนใหญ่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ศิลปินอัจฉริยะผู้นี้ใช้มือซ้ายวาดภาพ หรือช่วยสร้างผลงานด้วย ที่สำคัญเขาทำงานไปกินไป และยังทำงานระหว่างเดินทางอีกด้วย เพราะนิ้วมือของเขาค่อนข้างสกปรก บางครั้งก็มีเศษอาหารติดมา

ทว่าพฤติกรรมแบบนี้ของดาวินชีนั้น ผู้เชี่ยวชาญเรื่องศิลปินเอกของโลกก็ไม่อยากจะปักใจเชื่อ อย่าง คาร์โล เวคเค (Carlo Vecce) ศาสตราจารย์อักษรศาสตร์อิตาเลียน มหาวิทยาลัยเนเปิลส์ (Naples' University) แม้จะยอมรับว่าการศึกษาลายนิ้วมือของดาวินชีนั้นน่าสนใจ แต่ก็ไม่น่าจะระบุลักษณะต่างๆ ของเขาระหว่างสร้างผลงานได้ และเชื่อว่าข้อมูลที่ได้จากลายนิ้วมือก็ไม่น่าจะมากไปกว่าข้อมูลเดิมๆ ที่มีอยู่

ลีโอนาร์โด ดาวินชี มีชีวิตอยู่เมื่อ 600 ปีก่อนในยุคสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา แม้จะทุกคนจะยกให้เป็นศิลปินเอกของโลก ด้วยผลงานภาพวาดอย่าง โมนาลิซา และเดอะลาสต์ ซัปเปอร์ แต่เขาก็ยังมีความเชี่ยวชาญในด้านอื่นๆ อีกไม่ว่าจะเป็นสถาปนิก วิศวกร นักคณิตศาสตร์ นักประพันธ์เพลง นักประดิษฐ์ จนได้รับฉายาว่าเป็น “เรอเนซองส์แมน” (Renaissance man) บุรุษผู้เป็นแบบอย่างแห่งยุค ซึ่งทำให้ทั้งเรื่องราวชีวิตความเป็นตัวตนของดาวินชี และผลงานต่างๆ ได้รับความสนใจค้นหาที่มาที่ไปจนถึงปัจจุบัน

ขอบคุณแหล่งที่มา/http://www.manager.co.th


play-soccer-games
positive-effects-of-video-games
free-flash-game-websites
free-online-board-games
free-online-mahjong-games
family-games-to-play-at-home
play-nintendo-games-online
new-pc-games
games-to-play-at-parties
dress-up-games-for-teenagers

อยู่บ้านดีๆ หินตกทะลุหลังคา เชื่อไว้ก่อนว่ามาจากนอกโลก

ก้อนหินขนาดเท่าลูกกอล์ฟเป็นมันวาวตกกระแทกหลังคาบ้านแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ นักดาราศาสตร์เชื่อว่าน่าจะเป็นอุกกาบาต

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รับแจ้งเหตุ แถลงข่าวโชว์ก้อนหิน


ผู้โชคร้ายคือบ้านหลังหนึ่งในละแวกนี้ แต่ตำรวจไม่ยอมระบุตัวผู้เสียหาย

สเปซดอทคอม/เอพี – หลังคาบ้านหลังหนึ่งในรัฐนิ วเจอร์ซีย์ สหรัฐฯ ถูกหินไม่ทราบที่มาตกแทกจนเป็นรู ซ้ำกระทบพื้นกระเบื้องจนพัง โชคดีไม่หล่นใส่หัวใคร การบินสหรัฐฯ ปัดไม่ได้มาจากเครื่องบินแน่นอน แม้ยังไม่สามารถระบุที่มาได้ แต่เชื่อกันแล้วว่าน่าจะเป็น “อุกกาบาต” ที่มาจากนอกโลก

ก้อนหินขนาดเล็กเท่าลูกกอล์ฟ น้ำหนักประมาณ 377 กรัม (หนักกว่าน้ำอัดลมกระป๋องเล็กน้อย) ตกลงกระแทกหลังคาบ้าน 2 ชั้นหลังหนึ่งในฟรีโฮลด์ ทาวน์ชิป (Freehold Township) รัฐนิวเจอร์ซีย์ เมื่อค่ำวันอังคาร (2 ม.ค.) ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองเผยว่า มีผู้หญิงรายหนึ่งโทรมาแจ้งที่สถานีตำรวจว่า เธอได้ยินเสียงประหลาดตกกระทบหลังคาบ้าน จากนั้นลูกชายของเธอก็พบก้อนหินฝังอยู่ในกำแพงห้องอาบน้ำ

ก้อนหินจากท้องฟ้าทำหลังคาบ้านเป็นรู ตกกระแทกพื้นปูกระเบื้องในห้องน้ำ และกระเด้งไปฝังในกำแพงห้องน้ำ โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากก้อนหินดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำก้อนหินไปวิเคราะห์หาที่มา เชื่อว่าภายในเวลาไม่กี่วันน่าจะระบุได้

แต่ในเบื้องต้นองค์การบริหารการบินสหรัฐฯ (Federal Aviation Administration) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบถึงพื้นที่หินหล่น แต่ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าก้อนหินก้อนนี้มาจากไหน แต่ก็ฟันธงหนักแน่นว่า ไม่ได้มาจากเครื่องบินทำหล่นแน่นอน ส่วนจะมาจากไหนนั้นเกินความสามารถที่จะระบุได้

หินที่ไม่สามารถระบุที่มานี้ มีลักษณะพื้นผิวขุรขระ เป็นประกายวาว ยังไม่พบว่ามีการแผ่รังสีใดๆ ออกมา ซึ่งคาร์ลตัน พรายออร์ (Carlton Pryor) ศาสตราจารย์ด้านดาราศาสตร์ มหาวิทยาลัยรัตเจอร์ส (Rutgers University) เผยว่า ทุกๆ วันมีวัตถุหน้าตาแบบนี้ตกลงสู่พื้นโลกประมาณ 20-50 ก้อน และแม้จะไม่ได้เห็นก้อนหินดังกล่าวด้วยตาตัวเอง แต่พรายออร์เชี่อว่าห้องแล็บก็น่าจะตรวจและพิจารณาว่าเป็น “อุกกาบาต” ที่หลุดลอดชั้นบรรยากาศเข้ามากระทบผืนโลก

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจของฟรีโฮลด์ ทาวน์ชิป ได้สงวนชื่อเจ้าของและเลขที่บ้านหลังที่อ้างว่าโดนก้อนหินจากฟ้าตกกระแทก หลังคา เพราะทางครอบครัวไม่ต้องการเปิดเผยตัวต่อสื่อ อีกทั้งผู้ที่อาศัยละแวกนั้นก็มีการพูดคุยถึงข่าวคราวก้อนหินตกใส่บ้าน แต่ไม่มีใครสามารถระบุได้ว่าเป็นบ้านหลังใด

ขอบคุณแหล่งที่มา/http://www.manager.co.th


undress-real-women-games
where-can-i-play-tycoon-games-online
chess-games
effects-of-violent-video-games
the-game-plan
wii-virtual-console-games
bridal-shower-free-games
free-driving-internet-games
free-romantic-games-download
fun-math-games

เคล็ดลับแม่บ้าน “เวฟฟองน้ำฆ่าเชื้อ” ทำผิดขั้นตอนพาลเจ็บตัวได้

ลวิจัยแค่ใช้เตาไมโครเวฟอบฟองน้ำก็สามารถฆ่าเชื้อ ต่างๆ ได้มากมาย ทำเอาเหล่าคนรักความสะอาดในครัวตื่นเต้น นำไปทดลองใช้เป็นการใหญ่ ทว่าข้ามขั้นตอนรายละเอียดบางอย่างไป แทนที่จะได้ฟองน้ำสะอาดๆ กับทำเตาไมโครเวฟพังและอาจลุกลามเป็นอุบัติเหตุใหญ่โตได้

หลังจากที่สื่อต่างๆ ได้รายงานข่าวผลการศึกษาของทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยฟลอริดาที่พบว่าแค่นำ ฟองน้ำอันแสนสกปรกไปอบในเตาไมโครเวฟเพียง 2 นาทีก็สามารถฆ่าเชื้อต่างๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ได้ถึง 99% ก็สร้างความสนใจให้แก่ผู้ที่ได้รับข่าวสารไม่น้อย โดยหวังนำไปเป็นเคล็ดลับแม่บ้านทำความสะอาดฟองน้ำในครัวได้ง่ายๆ

ทว่า ระหว่างการนำไปใช้จริงตามห้องครัวต่างๆ บางสิ่งบางอย่างหล่นหายไป ซึ่งในขั้นตอนการทดลองทีมวิจัยได้นำฟองน้ำไปแช่ในน้ำเสีย และจากนั้นจึงนำมาอบ แต่ท่านผู้อ่านทางบ้านกลับลืมขั้นตอนสำคัญนี้ไป หลายบ้านเอาฟองน้ำแห้งไปอบ แทนที่จะกลายเป็นฆ่าเชื้อโรคต่างๆ กลับเป็นการสร้างอุบัติเหตุและทำความเสียหายให้แก่ไมโครเวฟ (และอาจลุกลามใหญ่โตไปมากกว่านั้น)

”แค่ต้องการให้รู้ว่าข้อเขียนของคุณในเรื่องการทำความสะอาดฟองน้ำและ แผ่นขัดนั้นปลุกเร้าความสนใจให้แก่ฉันไม่น้อย แต่พอนำฟองน้ำไปอบในเตาไมโครเวฟจริงๆ ไฟก็เกิดลุกไหม้ขึ้นมา ควันโขมงเต็มบ้าน ไมโครเวฟก็พังตามไปด้วย มันทำให้ฉันโมโหมาก” อีเมล์ฉบับหนึ่งที่ส่งมาถึงรอยเตอร์

ส่วนอีกฉบับก็ร้องทุกข์มาเช่นกันว่า ฟองน้ำพวกนี้ราคาถูก ถ้าสกปรกมากใช้เสร็จก็ควรโยนทิ้งไปเลย ไม่ต้องมาทำความสะอาดให้เสียดาย เพราะการอบฟองน้ำในเตาไมโครเวฟ มันทำให้บ้านคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหมือนกับเผายางรถยนต์ แม้ว่าจะเปิดประตูหน้าต่างระบายอากาศแล้วก็ตาม

อารอน ฮูเวอร์ (Aaron Hoover) เจ้าหน้าที่ฝ่ายสารนิเทศของม.ฟลอริดา เผยว่า หลังจากสื่อลงข่าวเรื่องนี้ แทบทุกแห่งก็ได้รับเสียงต่อว่ากลับมาคล้ายๆ กัน แต่ไม่มีผู้ใดต่อว่าโดนตรงมากับทางมหาวิทยาลัย ซึ่งฮูเวอร์ย้ำว่า จะต้องให้ผู้คนรู้ในสิ่งที่ถูกต้องว่าฟองน้ำที่จะนำไปอบนั้นจะต้องเปียกอยู่ ถึงจะไม่เป็นอันตราย

อย่างไรก็ดี ทางมหาวิทยาลัย ต้นสังกัดของทีมนักวิจัยได้ออกประกาศเตือนผู้ที่สนใจจะทำตามผลการศึกษาครั้ง นี้ ว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดประกายไฟที่ลุกออกมาจากเตาไมโครเวฟ ฟองน้ำที่นำเข้าไปอบนั้นจะต้อง “เปียก” ทั่วแผ่น แค่ 2 นาทีก็เพียงพอที่เชื้อต่างๆ จะตายไป และฟองน้ำหรือแผ่นขัดที่นำเข้าไปอบไม่ควรมีส่วนผสมของโลหะ ท้ายที่สุดตอนเอาฟองน้ำออกจากเตาให้ระมัดระวังด้วยเพราะร้อนมาก

ขอบคุณแหล่งที่มา/http://www.manager.co.th


wii-fit-games
abc-kids-games
icebreaker-games-for-married-couples
play-hunting-games
play-naruto-online-games
free-cooking-games
free-online-pool-games
free-war-game-downloads
hannah-montana-dress-up-games
playstation-game-cheats

ไม่อยากจิบกาแฟขม ลองชิม “ขนมผสมคาเฟอีน” แก้ขัด

กาแฟเครื่องดื่มที่ได้ รับความนิยม เพราะมี "คาเฟอีน" กระตุ้นสมองทำให้รู้สึกสดชื่น แต่รสขมของคาเฟอีนเป็นอุปสรรคสำคัญ ทำให้หลายๆ คนที่ต้องการความสดชื่นจากสารดังกล่าว หาทางเลี่ยงด้วยการดื่มโคลา ช็อกโกแลต หรือแม้แต่การฉีดคาเฟอีนเข้าร่างกายโดยตรงก็ยังมี

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
โด นัทผสมคาเฟอีนของบัซโดนัท หน้าตาเหมือนโดนัททั่วๆ ไป ทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ไม่ชอบรสขมในกาแฟ แต่ไม่รู้ว่าจะได้รับความนิยมขนาดไหน เพราะนอกจากโดนัทจะมีไขมันและแคลอรีสูงกว่าน้ำกาแฟแล้ว ยังดูดซึมได้ช้ากว่าด้วย


ไลฟ์ไซน์ดอทคอม/เอเจนซี – ง่วงก็ง่วง อยากดื่มกาแฟอย่างคนอื่นบ้างแต่ก็ทนรสขมไม่ได้ ในที่สุดนักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯ ก็สามารถนำคาเฟอีนแสนขม บรรจุลงขนมสุดหวาน ออกมาเป็น “โดนัทผสมคาเฟอีน” กินแทนกาแฟรับอรุณหรือเป็นของว่างยามบ่าย แต่อาจจะเป็นผลร้ายกับคนที่กำลังเลี่ยง “ทรานส์แฟตส์” และคอกาแฟตัวจริงไม่ขอแนะนำ

โรเบิร์ต โบฮานนอน (Robert Bohannon) นักชีวโมเลกุล ประธานบริษัทออนาสโก (Onasco, Inc.,North Carolina.) ที่ใช้ความพยายามทดลองค้นหาวิธีนำคาเฟอีนบรรจุลงในขนมอบมานานนับปี ก็สามารถสร้างขนมผสมคาเฟอีนได้สำเร็จ โดยจำหน่ายผ่านแบรนด์ “บัซโดนัท” และ “บัซเบเกิล” (Buzz Donut™, Buzzed Bagel™) ของโบฮานนอนเอง และเมื่อผลิตโดนัทคาเฟอีนออกมาแล้ว ในแต่ละชิ้นจะมีปริมาณคาเฟอีนเทียบเท่ากับกาแฟ ประมาณ 1-2 ถ้วยที่ดื่มกันทั่วไป

ความคิดริเริ่มทำขนมคาเฟอีนนี้โบฮานนอนเผยว่า เพราะ ต้องการเอาชนะ “ความขม” จากเมล็ดกาแฟ โดยได้ทดลองหลากหลายไม่ว่าจะเป็นรูปแบบครีม หรือน้ำตาล แต่เพราะความขมของคาเฟอีน และตัวผงที่ละลายยาก จึงทำให้สนใจหันมาลองนำไปใส่กับขนมอบดู และในที่สุดก็ประสบความสำเร็จในการใส่คาเฟอีนปริมาณเท่ากับในน้ำกาแฟ 1-2 ถ้วยลงไปในอาหาร

วิธีการของเขาก็คือนำ คาเฟอีนบริสุทธิ์ ทำให้แตกเป็นอนุภาคในระดับไมครอน (1 ในล้านเมตร) และทำให้อนุภาคเหล่านี้บรรจุเป็นแคปซูลด้วยการห่อ ซึ่งโดนัทแต่ละชิ้นจะมีปริมาณคาเฟอีนประมาณ 50-100 มิลลิกรัม หรือประมาณ 1 ด้วยกาเฟ และยังมีคาเฟอีนเม็ดละ 100-200 มิลลิกรัมต่อแคปซูลให้ผสมใส่ในขนม

”บางคนเลี่ยงที่จะจิบกาแฟขมๆ ด้วยการดื่มน้ำอัดลมประเภทน้ำดำ หรือดื่มกินช็อกโกแลต และพยายามรับประทานผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ได้จากกาแฟ แต่ตอนนี้บัซโดนัทและเบเกิลได้ช่วยให้ผู้ที่อยากได้คาเฟอีนแบบไม่ต้องดื่ม กาแฟ รับประทานได้อย่างง่ายดายมากขึ้น” โบฮานนอนกล่าว พร้อมทั้งเผยว่า ยังมีเฟรนไชนส์กาแฟอีกหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น คริสปี ครีม (Krispy Kreme), สตาร์บักส์ (Starbucks) และดังกินโดนัทส์ (Dunkin' Donuts) ต่างก็แสดงความสนใจในผลงานของเขา

”คา เฟอีนโดนัท” นอกจากจะใส่คาเฟอีนเข้าไปแล้ว ส่วนผสมอื่นๆ ก็เหมือนกับขนมอบทั่วๆ ไปที่เต็มไปด้วยไขมัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไขมันที่มีความเข้มข้นมาก หรือ “ทรานส์แฟตส์” (trans fats) และน้ำตาล

ทั้งนี้ “ทรานส์แฟตส์” หรือ Trans Fatty Acid เป็นไขมันที่อันตรายกับร่างกายที่สุดเพราะเกิดจากวิธีทางทางวิทยาศาสตร์ ที่ทำจากไขมันชนิดไม่อิ่มตัว (unsaturated fats) ให้เป็นไขมันคงตัว โดยดึงเอาไขมันที่ร่างกายต้องการออกไปหมดแล้วอัดด้วยโมเลกุลของไฮโดรเจน (Hydrogenation) เพื่อให้แข็งตัวเป็นก้อน ทำให้ไขมันไม่อิ่มตัวกลายเป็นไขมันอิ่มตัวสามารถเก็บไว้ได้นานๆ ซึ่งพบมากในอาหารสำเร็จรูป และตามฉลากจะระบุว่า มีส่วนผสมของ Hydrogenated oil หรือ Partially hydrogenated oil

”ทรานส์แฟตส์” นับเป็นผู้ร้ายตัวสำคัญของการบริโภค มีพฤติกรรมเหมือนน่ากลัวกว่าไขมันอิ่มตัว (saturated fats) เพราะเข้าไปเพิ่มปริมาณไขมันแอลดีแอล (LDL-Cholesterol) ซึ่งเป็นไขมันชั้นเลวปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ความกังวลนี้ทำให้องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ออกมาตรการ ให้สินค้าอาหารที่ผ่านกระบวนการไฮโดรเจเนชันหรือทรานส์แฟตส์ต้องระบุที่ฉลาก ให้ชัดเจน และเมื่อปลายปีที่แล้วในนิวยอร์กเองก็เริ่มแบนอาหารที่มีส่วนผสมของ ทรานส์แฟตส์

ทว่า “โดนัท” เป็นผลิตภัณฑ์อันดับต้นๆ ที่มีทรานส์แฟตส์อยู่มากโข เฉพาะโดนัทคาเฟอีนที่ผลิตออกมาแต่ละชิ้นมีพลังงาน 200 แคลอรี ไขมันทั้งหมด 200 กรัม เป็นทรานส์แฟตส์ 4 กรัม และโปรตีน 2 กรัม แต่โบฮานนอนก็สามารถขอจดสิทธิบัตรแนวคิดโดนัทผสมคาเฟอีนได้สำเร็จ เพราะวิธีการนี้เชื่อว่าสามารถลดจำนวนผู้ที่ต้องการคาเฟอีนโดยฉีดเข้าร่าง กายได้

แม้ว่าโดนัทคาเฟอีนจะเป็นทางออกใหม่ให้แก่ผู้ที่ต้องการรับคาเฟอี นเข้าสู่ร่างกายแต่ไม่อยากเผชิญความขมของน้ำกาแฟ แต่อรรถรสในการบริโภคโดนัทคาเฟอีนกับกาแฟจริงๆ ย่อมต่างกันแน่นอน

และที่สำคัญอาหารอบย่อมผ่านกระบวนการเผาผลาญในร่างกายช้ากว่าเครื่อง ดื่มร้อนที่เรารับประทานเข้าไปอย่างแน่นอน ซึ่งการประเดิมโดนัทคาเฟอีนในตอนเช้าอาจจะช่วยให้สดชื่นแทนกาแฟได้ในระดับ หนึ่ง แต่สำหรับคอคาเฟอีนแล้ว การบริโภคกาแฟโดยตรงคงเป็นวิธีการที่ได้ผลมากกว่า

ขอบคุณแหล่งที่มา/http://www.manager.co.th


bachelor-party-games
free-flash-miniclip-games
game-to-play-online
dora-the-explorer-free-games
free-online-nascar-games
online-card-games
teenage-birthday-party-games
drivers-ed-online-game
effects-of-video-games-on-children
free-fun-typing-game

อัศจรรย์เลข 9 บวกลบแดนนรกสวรรค์ให้คุณหลงรักคณิตศาสตร์

ความงามของเลข 9 ไม่ใช่เพียงทะเบียนสวยๆ ท้ายรถคุณเท่านั้น แต่หากคุณได้ลองบวก-ลบ-คูณ-หาร ตามแบบฉบับ “ครูละม้าย” คุณครูประถมแล้ว คณิตศาสตร์ที่เคยเป็นยาขมจะกลายเป็นความหอมหวานที่ใครต้องชื่นชอบ

ผลคูณ 9 x 8 เท่ากับ 72 ก็ดูไม่ได้แปลกพิศดารอะไร หากคุณท่องสูตรคูณได้แม่นยำก็ตอบได้ไม่ยาก แต่ นางละม้าย วงศ์ประสาร ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดูนสิม จ.ศรีสะเกษ ตั้งข้อสังเกตในผลคูณได้น่าสนใจคือ 7 ซึ่งเป็นหลักสิบของผลลัพธ์นั้นมีค่าน้อยกว่า 8 อยู่ 1 และ 2 ซึ่งเป็นหลักหน่วยของผลลัพธ์เมื่อรวมกับ 7 ก็ได้ผลลัพธ์เท่ากับ 9 ข้อสังเกตนี้ยังพบได้ในผลคูณด้วย 9 อื่นๆ อาทิ 99 x 38 = 3762 (37 น้อยกว่า 38 อยู่ 1 และ 3 ก็ขาดอยู่ 6 จึงจะครบ 9 , 7 ขาดอยู่ 2 จึงจะครบ 9) 999 x 187 = 186813 (186 น้อยกว่า 187 อยู่ 1 และ 1 ขาดอยู่ 8 จึงจะครบ 9, 8 ขาดอยู่ 1 จะครบ 9, 3 ขาดอยู่ 6 จึงจะครบ 9) เป็นต้น

จำนวนหลักของผลลัพธ์จะเท่ากับจำนวนหลักของตัวตั้งและตัวคูณบวกกัน ในส่วนของผลคูณตัวตั้งและตัวคูณไม่เท่ากัน ครูละม้ายก็ตั้งข้อสังเกตให้เห็นความอัศจรรย์ของเลข 9 เช่นกัน อาทิ 79 x 999 = 78921 ซึ่งจะเห็นว่า 2 หลักแรกก็ใช้หลักการเดียวกันคือ 78 น้อยกว่า 79 อยู่ 1 และ 7 ก็ขาดอยู่ 2 จึงจะครบ 9 ส่วน 8 ก็ขาดอยู่ 1 จึงจะครบ 9 แต่ผลลัพธ์ต้องมี 6 หลัก ดังนั้นจำนวนหลักที่หายไปใส่เลข 9 ลงไปให้ครบ ส่วนเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้นยังเป็นปริศนาที่คุณครูก็ยังไม่เข้าใจ

ครูละม้าย
“ทำไม? เป็นคำถามที่ดีเพราะนักคณิตศาสตร์ต้องไม่เชื่อคนที่ไม่มีเหตุผล แต่คุณครูก็คิดจนปวดหัวก็คิดไม่ออก แต่นั่งคิดแล้วก็เห็นว่ามันอย่างนี้” ครูละม้ายกล่าว พร้อมทั้งเผยว่าใช้เวลาว่างนับจากเริ่มเป็นครูหาวิธีคิดเลขแบบใหม่ๆ ให้นักเรียนสนุกและไม่เกลียดคณิตศาสตร์ เพราะสังเกตว่าเด็กๆ ชอบโจทย์ที่มีเลข 10 และถ้าท่องสูตรคูณก็ชอบท่องสูตรคูณแม่ 10 แต่กลับไม่ชอบเลข 9 ทั้งที่ต่างกันแค่ 1 และมีหลักคิดที่ซ่อนอยู่ง่ายๆ

ในส่วนของการหารครูละม้ายยกตัวอย่างการซื้อของซึ่งทำให้ง่ายต่อการคิด เช่น มีเงินอยู่ 534 บาท จะซื้อเสื้อตัวละ 99 บาทได้กี่ตัวและจะเหลือเงินเท่าไร ก็ให้คิดง่ายๆ ว่า เราใช้ธนบัตร 100 บาท ซื้อเสื้อตัวละ 99 ก็จะได้เงินทอนครั้งละ 1 บาท มีธนบัตร 100 บาทอยู่ 5 ฉบับจะซื้อเสื้อได้ 5 ตัวและได้เงินทอน 5 บาท เมื่อเอาไปรวมกับเศษอีก 34 บาทที่มีก็จะเหลือเงิน 39 บาท เช่นเป็นสมการคณิตศาสตร์ได้ 534 ÷ 99 ซึ่งคำตอบของโจทย์นี้ก็คือ 5 เศษ 39 ทั้งนี้จะเห็นจำนวนเต็มของคำตอบคือ 5 ซึ่งเป็นเลขตัวแรกของตัวตั้ง ส่วนเศษคือผลรวมของเลขตัวแรกกับตัวเลขที่เหลือ กรณีอื่นๆ ก็ได้ข้อสังเกตเดียวกัน อาทิ 7892 ÷ 999 = 7 เศษ 899, 54 ÷ 9 = 5 เศษ 9 เป็นต้น

ขณะที่การบวกและลบซึ่งเป็นการคำนวณที่ไม่น่าจะซับซ้อน แต่ครูละม้ายก็ชี้ปัญหาว่านักเรียนต่างเบือนหน้าหนีโจทย์ที่มีตัวบวกและตัว ลบเป็น 9 จึงสร้างหลักคิดง่ายๆ เพราะเห็นเด็กๆ ชอบบวกและลบเลข 10 ก็เด็กใช้เลข 10 มาคำนวณแล้วจึงหักลบหรือเพิ่มผลลัพท์ออก 1 เช่น 9 + 8 = 17 จะให้ได้คำตอบดังกล่าว ก็ใช้ 10 + 8 = 18 จากนั้นหักผลลัพธ์ออก 1 จึงได้คำตอบที่ถูกต้อง ส่วนการลบ 27 - 9 = 18 ก็เปลี่ยนไปคำนวณ 27 - 10 = 17 จากนั้นเพิ่มผลลัพธ์อีก 1 ก็จะได้คำตอบที่ถูกต้อง ซึ่งวิธีการคำนวณลักษณะนี้จะทำให้เด็กคำนวณได้ง่ายกว่าตั้งโจทย์แล้วบวกลบ ตัวทด

มาถึงโจทย์ที่ให้บวกลบพร้อมๆ กัน เช่น สมการ 7584 - 654 + 259 + 7 - 131 = ? นั้น ครูละม้ายกล่าวว่า เด็กๆ โดยเฉพาะนักเรียนชั้น ป.1-ป.2 มักไม่ชอบโจทย์ที่ดูยากๆ เหล่านี้ จึงคิดวิธีคำนวณสนุกๆ ให้นักเรียนแบ่งแดนที่เป็นบวกไว้บนแดนสวรรค์เพราะเป็นส่วนที่เราได้เพิ่ม แต่ตัวเลขที่ลบซึ่งเป็นส่วนที่เราต้องจ่ายให้เป็นแดนนรก จากโจทย์ดังกล่าวก็จะได้การตั้งคำนวณลักษณะนี้

การคำนวณเริ่มจากหลักหน่วย โดยดูว่ามีตัวเลขใดบ้างที่หักลบกันได้พอดี จะเห็นว่ามี 4 ที่ตัดกันได้พอดี เหลือ 1 ในแดนนรกที่ไปหักลบกับ 7 ในแดนสวรรค์ก็จะเหลือ 6 เมื่อรวมกับ 9 ในแดนสวรรค์จะได้ 15 เก็บ 5 ไว้ ส่วน 1 ก็ทดไว้หลักต่อไป ถัดไปเป็นหลักสิบเลข 5 ในแดนนรกและสวรรค์ตัดกันได้พอดี เหลือ 3 ในแดนนรกและ 8 ในแดนสวรรค์กับ 1 ตัวทด หักลบกันเหลือ 6 ถัดไปเป็นหลักร้อย 2 ในแดนสวรรค์ตัด 1 ในแดนนรกเหลือ 1 นำไปรวมกับ 5 ในแดนสวรรค์ได้ 6 หักลบกับที่ในแดนนรกเหลือ 0 ส่วนหลักพันคือ 7 ในแดนสวรรค์ไม่มีตัวหักลบจากแดนนรกจึงเหลือเท่าเดิม คำตอบของโจทย์ข้อนี้จึงเป็น 7065

“บวกลบเลขในแดนสวรรค์ก็แยกตัวบวกไปอยู่บนสวรรค์ ส่วนตัวลบไปอยู่ในแดนนรก จากนั้นดูแต่ละหลักว่ามีตัวไหนที่หักลบกันได้ ก็หักลบกันดูว่าเวรกรรมในนรกหมดหรือยังจากนั้นก็รวมผลบวกที่อยู่บนสวรรค์” ครูละม้ายสรุปหลักการบวกเลขหลายๆ หลักด้วยการผูกเรื่องเป็นการหักลบเวรกรรมในนรกกับสวรรค์ โดยให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการคำนวณ

แม้ว่าครูละม้ายจะไม่สามารถให้เหตุผลการข้อสังเกตที่มีกับเลข 9 ได้ แต่อย่างน้อยความน่าอัศจรรย์ที่เห็นนั้นก็น่าจะดึงให้เด็กๆ (อาจจะรวมทั้งผู้ใหญ่ด้วย) ได้สนุกไปกับการคำนวณคณิตศาสตร์ที่เป็นพื้นฐานสำคัญของการคำนวณในระดับที่ สูงขึ้น และหาก หวังให้มากขึ้นไปก็อยากเด็กๆ ที่สัมผัสความมหัศจรรย์ของเลขกลมๆ ตัวนี้ได้ตั้งคำถามและหาคำตอบต่อไปว่า ทำไมมันจึงเป็นเช่นนั้น? อันเป็นข้อสงสัยที่จะสร้างกระบวนการคิดอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ให้กับใครก็ตาม ที่ตั้งคำถามนี้

ขอบคุณแหล่งที่มา/http://www.manager.co.th


pinks-the-game
star-wars-internet-games
discovery-kids-games
free-casino-games-online
free-downloadable-kids-games
free-online-hunting-games
sims-2-free-game-download-for-pc
take-me-out-to-the-ball-game
free-addicting-games
strategy-war-games

Hello

narongsaknok